สถาปนิก (architect) คือผู้เกี่ยวข้องในการออกแบบและวางแผนในการก่อสร้างหรือที่เรียกว่า "งานสถาปัตยกรรม" เป็นผู้ที่เข้าใจในมาตรฐานการก่อสร้างของอาคาร เข้าใจถึงหน้าที่ใช้สอยของอาคารนั้น รวมถึงวัสดุที่จะนำมาเป็นส่วนประกอบของสิ่งก่อสร้างนั้น สถาปนิกจำเป็นต้องได้รับการศึกษาทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม ถึงจะสามารถทำงานในวิชาชีพสถาปนิกได้





ขั้นตอนการให้บริการวิชาชีพของสถาปนิก 
สถาปนิกจะทำการบริการวิชาชีพตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. ออกแบบเบื้องต้น (Schematic Design)

เป็นการสังเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับ ซึ่งผ่านการอนุมัติจากลูกค้าแล้ว มาพัฒนาเป็นแบบร่างอย่างง่ายๆ เพื่อเริ่มออกแบบ ซึ่งสถาปนิกจะทำการวางแนวความคิดในการออกแบบ (Preliminary Concept)และผังพื้นที่ในการใช้สอย ให้กับลูกค้าทำการ พิจารณา รูปแบบการออกแบบ (Style) รวมทั้งกำหนดคุณภาพของพื้นที่การใช้งานต่างๆ (Quality of space) นำเอาพื้นที่ต่างๆมาจัดวางลงไปในที่ตั้ง เพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสม (Zoning) หรือวางผังพื้นที่ใช้สอย อย่างง่ายๆ (Lay-out Plan) ผนวกแนวความคิด (Concepts)ที่สะท้อน ความเป็นเอกลักษณ์ ของโครงการมาสร้างรูปทรงที่สอดคล้องกับบริบท และการใช้งาน (Schematic design) พร้อมทั้งการเสนองบประมาณค่าใช้จ่าย (Preliminary Budget ) เพื่อให้ลูกค้าทำการพิจารณาการแบ่งพื้นที่ทั้งหมดว่าตรงกับความต้องการใช้งานจริงของลูกค้าหรือไม่

      เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้ว ลูกค้าจะเริ่มเข้าใจและมองเห็นหน้าตาของงานออกแบบที่สถาปนิกจะพัฒนาในขั้นตอนต่อไป และลูกค้าอาจจะขอปรับแบบได้ แต่ไม่ควรจะแก้ไขแบบจนผิดไปจากแนวความคิดในการออกแบบและผังที่ได้วางเอาไว้ เพราะจะทำให้สถาปนิกต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้งานออกแบบยืดเยื้อ ไม่เสร็จในระยะเวลาที่กำหนด
2. ออกแบบรายละเอียด (Design Development หรือ DD)

ลงรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ความสูง หรือ ระยะ ต่อยอดจากแบบร่างขั้นต้นตามสิ่งที่ต้องแก้ รวมถึงคาดการณ์งบประมาณ ในรูปแบบภาพ 3D Rendering Perspective
3. ทำแบบก่อสร้าง (Construction Document)

ลงงานเขียนแบบก่อสร้างจริง เพื่อกำหนดรายละเอียดทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับฝั่งวิศวกร เช่น วัสดุ และ งานโครงสร้างหรือระบบ
4. การประมูลและเจรจาต่อรอง (Bidding and Negotiation)

แน่นอนว่าการเจรจาเรื่องราคานั้นเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่นักขายแทบจะทุกคนต้องเจอไม่มากก็น้อย

นอกจากสิ่งที่คุณขายหรือวิธีในการขายของคุณนั้นไม่สามารถยืดหยุ่นเรื่องราคาได้เลย เช่นคุณเป็นนักขายสินค้าแบรนด์เนมขึ้นห้าง เรื่องต่อรองราคาจึงไม่น่าจะมี

5. บริหารงานก่อสร้าง (Construction Administration)

การจัดการการก่อสร้างเกี่ยวข้องกับการวางแผน การจัดทำงบประมาณ การประสานงาน และการควบคุมดูแลโครงการก่อสร้างตั้งแต่ต้นจนจบ








ความคิดเห็น